200daysofsummer
day8
-fictional style
ณ ตอนนี้ผมกำลังอยู่ที่ความสูง 25,000 ฟุตจากระดับน้ำทะเล
ภายใต้ท้องฟ้าสีน้ำเงินคราม และพื้นเมฆที่กว้างออกไปสุดลูกหูลูกตา
นกเหล็กลำนี้กำลังมุ่่งสู่เป้าหมายของมันอย่างแข็งขัน
ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง
รู้สึกฉงนในใจว่า
ไม่ว่าตรงนั้นจะเป็นยังไง
” เรายังอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันอยู่ใช่ไหม ? ”
คำพูดที่เผลอหลุดปากพูดออกไป คงทำให้ คนที่นั่งข้างๆกันตื่น
ผมหันไปดูข้างๆ ไอ้คนที่คิดว่าจะตื่น ดันตื่นอยู่แล้ว
” บ่นอะไรของนายเนี้ย ” เสียงบ่นจากคนข้างๆ
เครื่องบินตกหลุมอากาศ
และผมก็ตื่นขึ้นจากความฝัน
อันที่จริง คนที่นั่งข้างๆไม่มีหรอก
มันเป็นเพียง. ที่นั่งเปล่าๆ
ที่เราคิดเองว่ามีคนนั่งอยู่ตรงนั้น ?
…….
ความเงียบ
มันเงียบมากๆ สงบ และรู้สึกดี แถมมองออกไปได้ไกลมากๆ
คงจะเป็นที่ ที่ผมรู้สึกว่า ไอเดียหลายๆอย่างแม่งเเล่นเหี้ยๆ
ถ้าเอาข้อสอบมาทำบนนี้ได้ก็คงจะดี
เลิกนอกเรื่องดีกว่า
ทุกคนมีความฝันในวัยเด็กฮะ
ผมเองก็มี
ผมอยากเป็นนักบินนะ ตอนเด็กโคตรคลั่งเลย
ตอนเวลาได้ขึ้นเครื่องบิน โดยส่วนตัวผมรู้สึกดีมากๆที่มนุษย์คนนึง
สามารถควบคุมสิ่งๆหนึ่งที่ใหญ่กว่าตัวเองมหาศาลได้
แถม จะไปที่ไหนก็ได้ตามใจตัวเอง
ตามใจตัวเอง … นี่เราปรารถนาความเป็นอิสระตั้งแต่ตอนยังเด็กเลยเหรอเนี้ย
แต่ไงๆก็เหอะครับ ผมเป็นคนที่เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์เยอะมากๆแต่เด็ก
สายตาผมเลยสอบนักบินไม่ได้
ความฝันเลยเปลี่ยนไป
ภายใต้ การถอดใจ และ การมองว่ามันเป็นไปไม่ได้
ผมถอนหายใจ
และมองลงไปเบื้องล่าง
วิวเมืองเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขาไกลๆ ยังคงพอมองเห็นได้อยู่
ผมเอนตัวลงไปที่เบาะด้วยความง่วงที่สะสมจากการเล่นเกมส์และจัดกระเป๋าเมื่อคืน
ถาโถม
แต่ก็พยายามไม่หลับตา เพราะอยากเก็บช่วงเวลานี้ไว้ให้นานที่สุด
ถ้าเป็นไปได้
ผมอยากอยู่คนเดียวบนนี้ตลอดไปซะจริงๆแล้ว
ทุกคนอยากโบยบินไปกับสิ่งที่ตัวเองชอบ
สิ่งที่ชอบนั้นก็มีมาจากหลายๆอย่าง
ชอบด้วยหัวใจและพร้อมจะทำมันจริงๆ …(ก็เข้าใจยากอยู่ดีปะ)
ชอบเพราะ ทำแล้วมันมีคนยอมรับเยอะดี ทำให้เราดูดี
ชอบเพราะ เราอยากทำ เราไม่สนใจใคร
ชอบเพราะ มันจำเป็นต้องชอบ ?
ชอบเพราะ เราถนัด เราทำได้ แต่ไม่ได้มีใจให้มัน ?
มันเลยทำให้เราไม่รู้สักที ว่า เราควรจะทำอะไร
ควรจะไปทางไหน
สิ่งที่หลายๆคนยังไม่เจอ (รวมทั้งตัวผมด้วย)
นี่แหละ จะเป็นตัวกำหนดว่า ชีวิตเราจะเหลวแหลกขนาดไหน
หาเจอไว ได้โอกาสดี ก็รอดไป ถ้าเป็นอย่างอื่น ก็ต้องสู้เอา
กลับบ้านคราวนี้ ไม่มีจุดมุ่งหมายอะไรเลย
ปกติจะต้องไปเคลียรงาน ไปทริป หรืออะไรต่อมิอะไร
ผมเคยบ่นเรื่องทำนองนี้ไปแล้วใน blog entry เก่าๆ
พิมพ์ถึงบรรทัดนี้แล้ว พี่แอร์โฮสเตจหน้าตาจิ้มลิ้ม ก็เอาข้าวมาเสริฟ
Bangkok airways นี่ก็ยังหรูเหมือนเดิมแหะ
ขอให้เป็นแบบนี้ต่อไป
ในที่สุดผมก็อยากหลับละ
บาย คร่อกกก
ณ ความสูง 25,000 ฟุต จากท้องฟ้าที่แสนไกล
แผลในใจ มันยังคงหายได้ หากใช้เวลา
แต่ถ้าเป็นแผล ที่เราทำมันขึ้นมาเอง ด้วยมือเรา
คงต้องใช้มากกว่านั้น ….